
วงการเกมมีการพัฒนาตลอดไม่ว่าจะเป็นด้านภาพ เนื้อหา เสียง แน่นอนว่าทุก ๆ อุตสาหกรรม ทุกวงการผลิตเกมจะต้องปรับตัวเข้ากับโลกปัจจุบันนั้นเองจึงทำให้มีระบบต่าง ๆ เกิดขึ้นในเกมมากมายและหนึ่งในระบบที่ถูกใส่มานั้นก็คือ Butterfly Effect ซึ่งจะเป็นระบบที่สร้างทางเลือกให้กับผู้เล่นในการกระทำต่าง ๆ
โดยการเลือกของผู้เล่นทุกครั้งมีผลต่อเนื้อเรื่องที่จะดำเนินต่อไป วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับเจ้า Butterfly Effect ให้มากขึ้นกัน
– Butterfly Effect คืออะไร
ทุกคนเคยได้ยินคำว่าผีเสื้อกระพือปีกสะเทือนไปถึงดวงดาวไหมครับ ? มันเป้นคำเปรียบเปรยให้เห็นภาพถึงการกระทำเล็ก ๆ ที่จะส่งผลอันยิ่งใหญ่ไปสู่สิ่งที่ใหญ่กว่า โดยเจ้า Butterfly Effect นั้นก็มีแนวคิดเช่นเดียวกัน เพราะเรื่องนี้อ้างอิงมาจาก ทฤษฎีอลมาน (Caos Theory) ที่เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีผลต่อกันและกันเสมอ
ซึ่งถามว่าแนวคิดนี้อาจจะไม่ได้ในโลกของความจริงสักเท่าไหร่ เพราะคงไม่มีใครที่เด็ดดอกไม้แล้วโลกสะเทือนหรอกใช่ไหมครับ (หยอก ๆ) แต่ว่าแนวคิดนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เราเห็นคุณค่าของสิ่งเล็ก ๆ เพราะมันอาจจะส่งผลต่อเรื่องที่ยิ่งใหญ่ได้ด้วยเช่นเดียวกัน

– Butterfly Effect กับเนื้อเรื่องของเกม
บางเกมนั้นได้มีการเอาแนวความคิดนี้มาใช้ในการเล่น ทำให้ผู้เล่นอย่างเรา ๆ มีผลในการเล่นมากขึ้น ซึ่งบางครั้งผลกระทบเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ นั้นส่งผลให้เกมจบไปอีกแบบเลยก็ได้ ซึ่งบางเกมนั้นมีฉากจบอยู่ที่ 5-6 แบบ หรืออย่างมากที่ก็มีถึง 26 แบบเลยเช่นเดียวกัน
ถ้าถามว่าระบบ Butterfly Effect นั้นดีไหม ? ถือเป็นอีกระบบที่สร้างสีสันต์ให้เกมอย่างมากเลยครับ เพราะมีหลายเกมเลยที่เลือกใช้ระบบนี้ให้กับผู้เล่น ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น เกมจีบสาว ที่ทำให้เหล่าคนเล่นเลือกกการจีบหญิงต่าง ๆ ที่ทำให้เหล่าผู้เล่นเลือกฉากจบแบบต่าง ๆ ได้ และยังมีอีกหลายเกมเลยนะครับที่ใช้ระบบ Butterfly Effect
แล้วท่านละครับ มีเกมอื่นที่ใช้ระบบ Butterfly Effect กันบ้างหรือเปล่า?
gamefever.co
#ข้อมูล #ความรู้ #ข่าวสาร #Game #ButterflyEffect